ตำนานโตโยต้า โคโรน่า


ตำนานโตโยต้า โคโรน่า

TOYOTA CORONA HISTORY


โตโยต้า โคโรน่า (Toyota Corona) เป็นรถรุ่นหนึ่งที่โตโยต้าผลิตขึ้นเพื่อเป็นรถครอบครัว เริ่มผลิตเมื่อค.ศ. 1957 (พ.ศ. 2500) ซึ่งในประเทศไทย ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับ ฮอนด้า แอคคอร์ด แต่สู้ไม่ค่อยได้นัก อันเนื่องมาจากขนาดที่เล็กกว่าแอคคอร์ดอยู่เล็กน้อย ดังนั้น ต่อมา โตโยต้าจึงเปลี่ยนเอา โตโยต้า คัมรี่ ขึ้นมาแข่งกับแอคคอร์ด แทนโคโรน่า หลังจากนั้น ก็เป็นช่วงขาลงของโคโรน่า จนในที่สุด ก็เลิกขายในประเทศไทยใน ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) และเลิกผลิตทั่วโลกถาวรไปใน ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

โคโรน่า โฉมที่ 1-7 จัดอยู่ในประเภทรถขนาด Compact Car และโฉมที่ 8-10 จัดอยู่ในประเภทรถขนาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลาง

ชื่อ โคโรน่า เป็นภาษาละติน แปลว่า มงกุฏ ซึ่งเป็นความหมายเดียวกับคำว่า คราวน์ (Crown) ดังนั้น โคโรน่า จึงเป็นโตโยต้า คราวน์ ย่อส่วน ตลอดช่วงการผลิต 45 ปี โคโรน่า มีวิวัฒนาการทั้งหมด 10 Generation (โฉม) ตามช่วงเวลาต่างๆ ได้ ดังนี้

* 1 Generation ที่ 1 (ค.ศ. 1957 - 1959)
* 2 Generation ที่ 2 (ค.ศ. 1960 - 1964)
* 3 Generation ที่ 3 (ค.ศ. 1964 - 1969)
* 4 Generation ที่ 4 (ค.ศ. 1970 - 1974)
* 5 Generation ที่ 5 (ค.ศ. 1974 - 1978)
* 6 Generation ที่ 6 (ค.ศ. 1978 - 1983)
* 7 Generation ที่ 7 (ค.ศ. 1981 - 1989)
* 8 Generation ที่ 8 (ค.ศ. 1983 - 1989)
* 9 Generation ที่ 9 (ค.ศ. 1986 - 1992)
* 10 Generation ที่ 10 (ค.ศ. 1992 - 1998)
* 11 Generation ที่ 11 (ค.ศ. 1996 - 2002)


Generation ที่ 1 (ค.ศ. 1957 - 1959)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 1
เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2500 รหัสตัวถัง T10 ในสมัยนั้น โคโรน่า ยังใช้ชื่อนำหน้าว่า โตโยเพ็ท (Toyopet) ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นโตโยต้าในภายหลัง ดังนั้น โคโรน่า โฉมนี้ จึงใช้ชื่อในตลาดว่า โตโยเพ็ท โคโรน่า (Toyopet Corona) ซึ่งโฉมแรกนี้ ออกแบบมาโดยมี โตโยต้า คราวน์ เป็นต้นแบบ ซึ่งมีการนำโคโรน่าโฉมนี้ไปทำแท๊กซี่เป็นจำนวนพอสมควร




มิติตัวถัง ยาว 3.91 เมตร , กว้าง 1.47 เมตร , สูง 1.555 เมตร ขนาดลูกสูบเพียง 997 ซีซี (รถสมัยนั้นเล็กมากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน ซึ่งเมื่อเทียบกับยุคเดียวกัน โคโรน่าถือว่าใหญ่เอาการ) แรงม้าเพียง 45 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 7 กิโลกรัมเมตร ที่ 3,200 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุด 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนล้อหลัง ใช้เกียร์ธรรมดา ซึ่งมีเพียง 3 สปีด ราคาขายในช่วงนั้นตั้งไว้ที่ 648,000 เยน


Generation ที่ 2 (ค.ศ. 1960 - 1964)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 2
เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2503 รหัสตัวถัง T20 โฉมนี้ โคโรน่า มีรูปทรงที่เหลี่ยมคมมากขึ้น กระจกหน้า-หลัง ตั้งชันมากขึ้นตามสไตล์รถแบบอเมริกันในยุคนั้น และโฉมนี้ มีเข้ามาขายในไทย แต่ได้ใช้ชื่อรุ่นว่า เทียร่า (Tiara) ไม่ใช่ โคโรน่า


มิติตัวถัง ยาว 3.99 - 4.03 เมตร , กว้าง 1.49 เมตร , สูง 1.445 - 1.455 เมตร (แล้วแต่ตัวถัง) ในช่วงแรก ใช้เครื่องยนต์สี่สูบ 997 ซีซี 45 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 7 กิโลกรัมเมตร ที่ 3,200 รอบต่อนาที ต่อมา มีการนำเครื่องยนต์ที่แรงกว่ามาใช้ โดยเป็นเครื่องสี่สูบ 1,453 ซีซี 62 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 11.2 กิโลกรัมเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที ใช้เกียร์ธรรมดา 3 สปีด


Generation ที่ 3 (ค.ศ. 1964 - 1969)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 3
เปิดตัวในวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2507 รหัสตัวถัง T40 โฉมนี้ โคโรน่าถูกออกแบบมาให้มีรูปทรงแบบ Arrow Line (หัวลูกศร) และมีการสร้างความสนใจให้กับประชาชน โดยนำโคโรน่าไปทดสอบวิ่งอย่างต่อเนื่องบนทางด่วนเป็นระยะทาง 100,000 กิโลเมตรโดยไม่ดับเครื่อง ด้วยอัตราเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สร้างชื่อเสียงให้โตโยต้าเป็นที่ยอมรับในระดับสากลในเรื่องของเทคโนโลยีและ มาตรฐานของการผลิตรถยนต์จนถึงปัจจุบัน

โคโรน่าโฉมนี้ นอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้โตโยต้าแล้ว ยังมีการนำไปทำแท๊กซี่เป็นจำนวนมาก เพราะมีการพิสูจน์ให้เห็นว่าอึดจริง และจนถึงปัจจุบัน รถรุ่นนี้หลายคันก็ยังสามารถวิ่งได้ แม้แต่ในประเทศไทย ซึ่งจนถึงพ.ศ. 2546 ก็ยังมีการพบเห็นว่ามีแท๊กซี่ที่เป็นโคโรน่า Generation นี้วิ่งอยู่ที่พระราม 4 และใต้ทางด่วนราษฎร์บูรณะ


ช่วงแรกที่เปิดตัว มีตัวถังแบบเดียว คือ sedan 4 ประตู 1,198 ซีซี 55 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 8.8 กิโลกรัมเมตร ที่ 2,800 รอบต่อนาที และต่อมาก็มีการเพิ่มรุ่นพิเศษอีกมากมาย ทั้งเครื่องยนต์รุ่นพิเศษที่แรงกว่า และมีการเพิ่มตัวถัง hardtop coupe , station wagon , กระบะ และ hatchback

ยังเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง มีเกียร์ธรรมดา 3 สปีด กับเกียร์อัตโนมัติ 2 สปีดให้เลือก มีมิติยาว 4.065 - 4.11 เมตร , กว้าง 1.55 เมตร , สูง 1.42 เมตร

Generation ที่ 4 (ค.ศ. 1970 - 1974)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 4
เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2513 รหัสตัวถัง T80 โคโรน่าโฉมที่แล้ว แทบจะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จล้นหลามในแถบเอเชีย แต่ว่า โคโรน่าโฉมนี้ ประสบความสำเร็จในแถบอเมริกัน คาดว่าสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากความนิยมที่เริ่มประหยัดของชาวอเมริกัน จึงเริ่มหันมาซื้อรถจากเอเชียที่ราคาถูกกว่า โคโรน่าโฉมนี้ ใช้เชื้อเพลิงเบนซิน ลูกสูบ 1.5 , 1.6 , 1.7 , 1.9 และ 2.0 ลิตร



Generation ที่ 5 (ค.ศ. 1974 - 1978)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 5
โคโรน่าโฉมนี้ รหัสตัวถัง T100 ถึง T120 ลูกสูบ 1.6 และ 2.0 ลิตร ยกเว้นในอเมริกาเหนือที่ใช้เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร และเริ่มมีการใช้เครื่องยนต์แบบ Twin Cam และขายเฉพาะในญี่ปุ่น ส่วนในอเมริกัน โดยรวมโฉมนี้ก็ถือว่ายังประสบความสำเร็จ แต่ไม่เท่าโฉมที่ 4




Generation ที่ 6 (ค.ศ. 1978 - 1983)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 6
รหัสตัวถัง T130 เครื่องยนต์ลูกสูบ 1.6 และ 2.0 ลิตรเหมื่อนเดิม อเมริกาใช้ลูกสูบ 2.2 ลิตรเหมื่อนเดิม ซึ่งเครื่อง 2.2 ลิตรนี้ โตโยต้า เซลิก้า รถสปอร์ตของโตโยต้าในยุคนั้นก็ใช้ โคโรน่าโฉมนี้ในอเมริกาจึงมีความเป็นรถสปอร์ตอยู่บ้าง ต่างจากโคโรน่าในเอเชียซึ่งเน้นเป็นรถครอบครัว แต่โคโรน่าโฉมนี้ เป็นโคโรน่าโฉมสุดท้ายที่มีขายในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่โตโยต้าจะส่ง โตโยต้า คัมรี่ ที่ใหญ่กว่ามาแทนโคโรน่า (เฉพาะในอเมริกา)



Generation ที่ 7 (ค.ศ. 1981 - 1989)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 7
รหัสตัวถัง T140 เป็นอีกโฉมหนึ่งที่คนไทยรู้จักดี ในฐานะรถโคโรน่าขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นรองสุดท้าย (ขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นสุดท้ายเป็นโฉมที่ 10 แต่ไม่เป็นที่นิยม) กลุ่มผู้ค้ารถในไทยเรียกชื่อว่า "โฉมหน้าแหลม" เพราะกระจังหน้ามีการหักมุมตรงกลาง ทำให้มีลักษณะแหลม ในฮ่องกง มาเก๊า และสิงคโปร์ มีการนำรถรุ่นนี้ไปทำแท็กซี่เป็นจำนวนมาก โฉมหน้าแหลมเป็นโฉมที่ผลิตเป็นระยะเวลานานที่สุดของโคโรน่า ปัจจุบันยังพอมีเห็นได้บ้างตามท้องถนน แต่ไม่มากนัก


Generation ที่ 8 (ค.ศ. 1983 - 1989)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 8
รหัสตัวถัง T150 และ T160 โฉมนี้ โคโรน่าเริ่มเสื่อมถอยความนิยมลงในออสเตรเลีย เพราะคัมรี่ เริ่มเข้าไปเป็นที่นิยมแทนโคโรน่า แต่ในประเทศไทย คัมรี่ยังไม่เป็นที่รู้จัก (คัมรี่ เข้ามาในไทยในช่วงที่โคโรน่าอยู่ในโฉมที่ 10) โคโรน่าจึงยังครองความนิยมในไทยต่อไป แต่ในวงรวมทั่วโลกถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า โคโรน่า อาจจะถึงจุดจบในไม่ช้า


Generation ที่ 9 (ค.ศ. 1986 - 1992)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 9
รหัสตัวถัง T170 นับได้ว่าเป็นโฉมสุดท้ายที่โคโรน่าในไทยยังเป็นรถครอบครัวที่ไม่มีคู่แข่ง


เจเนอเรชันนี้ มี 2 รุ่น คือ รุ่น โฉมหน้ายักษ์ และรุ่น โฉมหน้ายิ้ม
สองรุ่นนี้ รูปทรงรถจะคล้ายกันมาก และโตโยต้าจัดให้เป็นเจเนอเรชันเดียวกัน มีการนำโคโรน่าโฉมนี้ ไปทำแท็กซี่ในญี่ปุ่นอีกจำนวนหนึ่ง

โฉมหน้ายักษ์เป็นรุ่นแรกของโคโรน่าที่เริ่มมีการติดตั้งเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดในไทย ซึ่งเครื่องยนต์หัวฉีด จะมีข้อดีที่จะใช้น้ำมันได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ประหยัดเงินได้มากกว่าเครื่องยนต์ระบบคาร์บูเรเตอร์แบบ เก่า

Generation ที่ 10 (ค.ศ. 1992 - 1998)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 10

รหัสตัวถัง T190 เปิดตัวในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2535 โคโรน่าโฉมนี้ มีคู่แข่ง คือ โตโยต้า คัมรี่ โฉมที่ 3 เริ่มเข้ามาในไทย เป็นรถครอบครัวแข่งกับโคโรน่า ซึ่งโดยรวมแล้ว ในไทยคัมรี่ได้รับความนิยมพอๆ กับโคโรน่า
แต่ในประเทศอื่นๆ ที่โคโรน่าเคยเป็นที่นิยมนั้น โดยรวมในช่วงนี้ โคโรน่ามีความนิยมต่ำกว่าคัมรี่อย่างชัดเจน เมื่อหมดยุคโฉมนี้ โตโยต้าประเทศญี่ปุ่นก็ยกเลิกการส่งออกและการผลิตโคโรน่านอกประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมด
โคโรน่ารุ่นสุดท้ายที่มีขายในไทยนี้ ก็เป็นที่รู้จักไม่น้อย โดยเฉพาะโคโรน่ารุ่นพิเศษ คือ Toyota Corona Exsior ด้วยรถที่กว้างใหญ่นั่งสบาย ประหยัดน้ำมัน แต่ก็ต้องระงับการผลิตไปในที่สุด



Generation ที่ 11 (ค.ศ. 1996 - 2002)
โตโยต้า โคโรน่า โฉมที่ 11

รหัสตัวถัง T210 และ T220 เป็นโคโรน่าโฉมสุดท้ายที่ผลิต มีขายเฉพาะในญี่ปุ่น ไม่มีการส่งออกหรือผลิตโฉมนี้ในประเทศอื่น มีการนำไปทำแท๊กซี่อยู่บ้าง ในช่วงสุดท้ายนี้ มีการผลิตโคโรน่ารุ่นพิเศษ คือ Toyota Corona Premio ซึ่งต่อมา Premio ก็ได้รับความนิยม และแตกหน่อแยกตัวออกมาเป็นอิสระ กลายเป็น Toyota Premio ซึ่งยังผลิตอยู่จนถึงปัจจุบัน

TOYOTA PREMIO 2008 RELEASED IN JAPAN

โคโรน่า เมื่อ Premio แยกตัวออกไปแล้ว ยุคของโคโรน่าก็หมดลง คัมรี่ เข้ามาเป็นรถครอบครัวแทนโคโรน่าอย่างสมบูรณ์ จนในที่สุด ก็ปิดฉากการผลิตโคโรน่าลงใน พ.ศ. 2545 รวมระยะเวลาการผลิต 45 ปี

จะเห็นได้ว่า แม้คัมรี่จะได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน แต่คัมรี่ก็เริ่มเข้ามาแข่งกับโคโรน่าในช่วงที่โคโรน่าเป็นโฉมที่ 7 แต่กว่าจะสามารถเอาชนะได้ก็กินเวลากว่า 20 ปี แต่ยุคทองที่โคโรน่าได้รับความนิยมสุดขีดแบบไม่มีสิ่งใดขวางกั้นนั้น ยาวนานเกือบ 20 ปีเช่นกัน

ที่มา : www.jitsing.com/TOYOTA-CORONA-HISTORY


00933 โดย ดร.ศักดิ์ชัย ภู่เจริญ 2011-08-04 15:30:50 v : 11242



ดร.ศักดิ์ชัย ภู่เจริญ

 

เว็บทางการศึกษา
ตรวจสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต
ข่าว The Nation
ข่าว CNN
ข่าว BangkokPost


มูลนิธิทางไกrลผ่านดาวเทียม
บริการการเรียนการสอนทางไกล ผ่านดาวเทียม จากโรงเรียนไกลกังวล หัวหิน
มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย
ศูนย์กลางการศึกษาผ่านระบบเครือข่าย ครอบคลุมการศึกษาทุกระบบ
GURU Online
พัฒนาครูไทย มาตรฐานเท่าเทียม เรียนได้ทุกที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ก้าวย่างอย่างเข้าใจ
การจัดกระบวนการเรียนรู้เพศศึกษาให้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรสถานศึกษา
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
ส่งเสริมให้ข้าราชการออมเงินไว้เพื่อใช้ในยามเกษียณอาย
KARN.TV
รวมความรู้ แบบฝึกหัด กิจกรรมเพิ่มทักษะ สำหรับอนุบาล - ประถมต้น
ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อบริการประชาชน
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้บริการทั้งการสอบถามข้อมูล การรับเรื่องร้องเรียนและการให้บริการในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับภาครัฐ ของทุกกระทรวง ทบวง กรม ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ห้องสมุด มสธ.
IGCSE ติว IELTS
TOEIC ติว GED
IELTS ติว TOEIC
TDC : Thai Digital Collection
สืบค้นงานวิจัย ฉบับเต็ม



 

เรียนพิเศษโคราช

พัฒนาระบบโดย
ธีรวัฒน์ ภู่เจริญ

จดโดเมน Host ออกแบบเว็บไซต์ Web Design

ครูอินเตอร์.คอม ดร.ศักดิ์ชัย ภู่เจริญ ภาวะผู้นำ บริหารการศึกษา