พระอภัยมณีเป็นพ่อหม้าย
พระอภัยมณีและสินสมุทรได้อาศัยเรือของนางสุวรรณมาลีออกจากเกาะแก้วพิสดาร พอพ้นเขตเวทย์มนต์ของท่านฤๅษีก็โดนนางผีเสื้อสมุทรที่เฝ้าคุมเชิงอยู่แผลงฤทธิ์จนเรือแตก บิดาของนางสุวรรณมาลีจมน้ำหายไป สินสมุทรช่วยนางสุวรรณมาลีจนไปขึ้นเรือโจรสุหรั่งได้ ฝ่ายพระอภัยและลูกเรือว่ายน้ำไปขึ้นเกาะ และพระอภัยจำต้องเป่าปี่สังหารนางผีเสื้อสมุทร จากนั้นก็ต้องติดเกาะ จนเรือของอุศเรนคู่หมั้นของนางสุวรรณมาลีที่นำกองเรือเที่ยวออกตามหานางมาพบเข้า พระอภัยมณีจึงได้โดยสารเรือของอุศเรน มาพบกับเรือของศรีสุวรรณ สินสมุทร และนางสุวรรณมาลี เกิดศึกชิงนาง อุศเรนต้องล่าทัพกลับไป (จะกล่าวถึงรายละเอียดตอนอุศเรนอีกทีครับ)
เมื่อพระอภัยได้พบกับนางสุวรรณมาลี ศึกรักของพระอภัยจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง โดยมีพ่อสื่อเป็นสินสมุทรอีกเช่นเคย พระอภัยสื่อสารทางวาจา และเขียนจดหมายรักในรูปของเพลงยาว ส่งกันไปมา นางสุวรรณมาลีก็โอนเอียงไปกับคำหวาน แต่ไม่ได้หลงกลจนเสียท่าแก่พระอภัยก่อนเวลาอันควร
เล่ห์กลแรกของพระอภัย ซึ่งตัวละครในวรรณคดีหลายคนก็ชอบใช้ นั่นคือบอกว่าถ้าไม่รับรักจะฆ่าตัวตาย
พระบิดาข้าบาทจะขาดจิต
|
ด้วยสุดคิดสารพัดจะขัดขวาง
|
พระแม่ตรัสตัดสวาทให้ขาดทาง
|
ไปรักข้างฝ่ายฝรั่งเมืองลังกา
|
พระน้อยใจไม่อยู่จะสู้ม้วย
|
เพราะเหตุด้วยความรักนั้นนักหนา
|
พอสิ้นแสงสุริยนสนธยา
|
จะพาข้าโจนน้ำให้จำตาย ฯ
|
จากนั้นก็เขียนจดหมายออดอ้อน และทำท่าจะไปหานางถึงห้อง โดยออกอุบายให้สินสมุทรไปที่อื่นเสียสักพัก เด็กเล็กๆ ก็ไม่รู้ประสีประสาเกี่ยวกับเรื่องลึกซึ้งของผู้ใหญ่เขาหรอก
กุมาราว่าแม่กลัวท่านหรือคะ
|
พระพ่อจะทำไมกับใครได้
|
พูดกันเล่นเห็นตัวกลัวอะไร
|
นางว่าไฮ้จู้จี้ไม่มีละ
|
พระอภัยใจคอเป็นพ่อหม้าย
|
จะวุ่นวายไว้ใจได้หรือหนะ
|
ฉวยจวนจริงหญิงกับชายหมายชนะ
|
พ่อเจ้าจะได้ตะครุบเอาปุบเดียว ฯ
|
นางสุวรรณมาลีประเมินสถานการณ์แล้วว่า ถ้าปล่อยให้ตัวเองอยู่กันสองต่อสองกับพระอภัยคงไม่รอด มีหวังต้อง “เสียตัว”ก่อนที่จะได้แต่งงานประเพณีแน่ๆ นางจึงคิดอุบายเอาตัวรอด นางทำยังไงมาดูกันครับ
พระโฉมยงคงจะมาเวลานี้
|
นางรู้ทีมั่นคงไม่สงสัย
|
จึงคิดอ่านการลับกับสาวใช้
|
ที่ร่วมใจเจ็ดคนพวกดนตรี
|
ให้ปลอมแปลงแต่งกายเหมือนชายไพร่
|
แต่ล้วนใส่หมวกกลานุ่งผ้าสี
|
แล้วโฉมยงทรงแต่งแปลงอินทรีย์
|
ทำเป็นทีแขกเทศเพศผู้ชาย
|
บนเตียงนอนหมอนข้างเอาวางไว้
|
คลี่สะไบคลุมประทมของโฉมฉาย
|
เอาปกปิดคิดทำไว้แทนกาย
|
แล้วรูดสายม่านบังสั่งสุรางค์
|
กลอุบาย “เมืองเปล่า”ได้ผล พระอภัยกินแห้วไปตลอดที่อยู่บนเรือ และเมื่อนางกลับมาถึงเมืองก็ยังบ่ายเบี่ยงที่จะเข้าอภิเษกกับพระอภัย โดยใช้ข้ออ้างว่าจะขอออกบวช ถือศีลสักพัก
พระอภัยต้องรอเก้อมาโดยตลอด ต้องอาศัยนางวาลีสนมเอกวางอุบายให้นางสุวรรณมาลีหลงกล และมารดาของตัวเองกดดันจนนางต้องสึกออกมาอภิเษกกับพระอภัยจนได้ มารดาของนางกลัวว่าถ้านางไม่ออกมาอภิเษก สถานะของนางอาจจะต้องเปลี่ยนไปนั่นคือเหตุผลของนาง
ออกตามทางกลางถนนไปพ้นทุ่ง
|
ถึงเขารุ้งลงเดินขึ้นเนินผา
|
ถึงกุฎีที่สถิตพระธิดา
|
พอเห็นหน้านึกแค้นว่าแสนงอน
|
เห็นเขาง้อขอรักแล้วหักหาญ
|
เหมือนสามาญมิได้ฟังซึ่งสั่งสอน
|
เมื่อเจ็ดค่ำจะทำการสยุมพร
|
ยังนิ่งนอนภาวนาอยู่ว่าไร ฯ
|
แม้ในสมัยปัจจุบันก็เถอะ มีบ่อยครั้งที่การเลือกคู่และการแต่งงาน ความรักกลายเป็นเหตุผลประกอบเล็กๆ แต่สถานะทางสังคม ทางเศรษฐกิจเป็นเหตุผลหลักของผู้ใหญ่
ฝ่ายสุวรรณมาลีศรีสวัสดิ์
|
ให้อั้นอัดอายจิตคิดสงสัย
|
ไม่ตอบคำอ้ำอึ้งตะลึงไป
|
เหตุไฉนหนอจึงเป็นไปเช่นนี้
|
พระมารดามานั่งก็ตั้งกริ้ว
|
ว่าบิดพลิ้วสารพัดจะบัดสี
|
หรือว่าพระจะภิเษกนางวาลี
|
พระบุตรีตรึกตรองให้หมองใจ
|
จึงทูลว่าข้าน้อยไม่ทราบเหตุ
|
ว่าทรงเดชคิดการงานไฉน
|
พระชนนีตีอกตกพระทัย
|
นั่นมิใช่หรือเราคิดไม่ผิดนัก
|
นางวาลีมิใช่ชั่วเขาตัวโปรด
|
จะเป็นโสดสูงเสริมเฉลิมศักดิ์
|
ผู้ดีเดิมเหิมฮึกทำคึกคัก
|
จะต้องหักทบทับอัประมาณ
|
เหมือนครั้งนี้วิวาห์ถ้ามิสึก
|
เมืองผลึกก็จะแหลกต้องแตกฉาน
|
สงสารเหล่าเผ่าพงศ์พวกวงศ์วาน
|
เคยสำราญราษฎรจะร้อนนัก
|
อนึ่งเล่าชาวลังกาที่มาขอ
|
ยังเป็นข้อชิงช่วงทำหน่วงหนัก
|
ฉวยขุ่นเคืองเรื่องฝรั่งว่ายังรัก
|
ก็งามพักตร์แล้วสิพากันหน้าพัง
|
สู้ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลำบาก
|
หมายจะฝากศพลูกช่วยปลูกฝัง
|
ครั้นใหญ่กล้าว่าไรก็ไม่ฟัง
|
พระนางนั่งพร่ำว่าแล้วจาบัลย์ ฯ
|
นางสุวรรณมาลีจึงจำใจต้องทำตามที่มารดาต้องการ
พระบุตรีมิรู้ที่จะคิด
|
เพราะเบาจิตผิดจริงทุกสิ่งสรรพ์
|
ไม่ทันตรึกลึกล้ำที่สำคัญ
|
ให้พรั่นพรั่นพระจะแหนงระแวงความ
|
ทั้งสงสารมารดรจะร้อนจิต
|
จึงรับผิดสารภาพที่หยาบหยาม
|
จะลาพรตอตส่าห์พยายาม
|
สุดแต่ตามพระจะเลี้ยงสักเพียงไร
|
พระอภัยจึงสมใจในรักกับนางสุวรรณมาลี ได้นางเป็นมเหสี ได้ครองเมือง อยู่อย่างมีความสุขไปได้พักหนึ่ง สงครามที่มีมูลเหตุเพราะความรักจึงเริ่มต้นขึ้น และยืดเยื้อไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานทีเดียว
พระอภัยได้ราชาภิเษก
|
กับองค์เอกอัคเรศเกศสนม
|
ทั่วประเทศเขตต์แคว้นแสนอุดม
|
เสวยสมบัติสบายมาหลายเดือน
|
เมื่อวันนั้นบรรทมบรรจถรณ์แท่น
|
ให้โศกแสนเสียใจใครจะเหมือน
|
แต่จากไกลไอศวรรย์มาฟั่นเฟือน
|
มิได้เยือนพระชนกชนนี
|
โอ้ผ่านเกล้าเจ้าประคุณทูลกระหม่อม
|
จะพรักพร้อมอยู่บำรุงซึ่งกรุงศรี
|
หรือทุกข์โศกโรคภัยสิ่งไรมี
|
ถึงสิบปีแล้วมิได้ไปใกล้กราย
|
แล้วพระองค์ทรงสำราญผ่านสมบัติ
|
แต่นางกษัตริย์มเหสีนั้นขี้หึง
|
เห็นโปรดใครใหญ่ขึ้นก็มึนตึง
|
จึงทรงครรภ์ไม่ทันถึงในครึ่งปี
|
ครั้นคลอดราชธิดาเป็นฝาแฝด
|
ดังทองแปดนพคุณจรูญศรี
|
ไม่คลาดเคลื่อนเหมือนกันสิ้นทั้งอินทรีย์
|
พระอัยกีรักใคร่กระไรเลย
|
เห็นหลานมากอยากเลี้ยงเข้าเคียงข้าง
|
พระทัยนางนึกนิยมชมลูกเขย
|
แล้วว่าดีมีถมดอกนมเนย
|
ขอให้เคยคู่แฝดสักแปดคราว
|
ที่มา http://www.teenpath.net/content.asp?ID=13536
00722 โดย ดร.ศักดิ์ชัย ภู่เจริญ 2011-04-08 12:55:06 v : 2243
|