รายงานผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
(ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6
โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
ชื่อผู้วิจัย นางสาวสุภาวดี แซ่โค้ว
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนคร
หาดใหญ่
ปีที่ทำการวิจัย ปีการศึกษา 2557
รายงานผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี)ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2557 นี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี)ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี)ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2557 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ก่อนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี)ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี)โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/3 จำนวน 40 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ เอกสารประกอบการเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี)ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 3 หน่วย 3 เล่ม ประกอบแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และประเมินผล จำนวน23 แผน รวมแผนปฐมนิเทศ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน(ลูกเสือ-เนตรนารี) หน่วยที่ 4-6 เป็นแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ และสถิติที่ใช้ประกอบด้วย สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบสมมติฐานในการทดสอบทีแบบไม่อิสระ สถิติที่ใช้หาคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ การหาค่าความเที่ยงตรงตามสูตรของ IOC การหาค่าความเชื่อมั่นแบบทดสอบตามสูตร KR-20 หาค่าความเชื่อมั่นแบบสอบถามตามสูตรสัมประสิทธิแอลฟา และสถิติหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนใช้ E1/E2
ผลการวิจัย พบว่า
1) ผลการหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 พบว่า มีประสิทธิภาพโดยรวม E1/E2 = 84.09/83.75 สูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพที่กำหนด 80/80 สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 พบว่าหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3) ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) ที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 พบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 4-6 มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (X= 4.04 , S.D. = 0.63) ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
05334 โดย นางสาวสุภาวดี แซ่โค้ว 2015-08-11 13:09:44 v : 3459
|