บอร์ด กนง.-กนส.ห่วงหนี้ครัวเรือน และกังวลธนาคารของรัฐสนองนโยบายรัฐบาลจนอาจกระทบเสถียรภาพเศรษฐกิจในอนาคต เหตุมีการซ่อนเร้นภาระหนี้
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานผลการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. โดยที่คณะกรรมการทั้งสองชุดมีความเป็นห่วงตรงกันในเรื่องของหนี้ครัวเรือนและสินเชื่อบุคคลที่ขยายตัวในอัตราสูง
อย่างไรก็ดี สินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่คุณภาพของลูกหนี้สินเชื่ออุปโภคบริโภคยังอยู่ในเกณฑ์ดี จึงยังไม่กระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทย แต่อาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้บางกลุ่มได้ในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงการเพิ่มบทบาทของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินมากขึ้น และได้รับทราบการประสานงานร่วมกันระหว่าง ธปท. กับกระทรวงการคลัง ถึงแนวทางปรับปรุงบทบาทของธนาคารของรัฐในอนาคต
สาเหตุสำคัญที่ห่วงผลกระทบของธนาคารเฉพาะกิจที่อาจมีต่อเสถียรภาพระบบการเงิน เพราะในช่วงหลังธนาคารรัฐหันมาทำธุรกิจที่แทบจะไม่แตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ และยังมีบทบาทในการทำภารกิจสนองนโยบายรัฐบาลมาก
“ขณะนี้ไม่รู้ว่ามีการใช้เงินกู้หรือเงินผ่านธนาคารของรัฐมากน้อยเพียงไร และการไปทำสนองนโยบายสร้างภาระความเสียหายให้สถาบันการเงินแต่ละแห่งเท่าใด หรือสร้างภาระหนี้นอกงบประมาณ หรือหนี้สาธารณะที่ซ่อนเร้นเอาไว้เท่าไร”รายงานข่าวระบุ
นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงว่าจะกระทบกับเสถียรภาพระบบการเงินในอนาคตหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามประสานหาช่องทางรับรู้ข้อมูลที่แท้จริง เพื่อนำมาประเมินผลกระทบและวางแผนการทำนโยบายเศรษฐกิจได้อย่างเหมาะสมต่อไป
สำหรับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ที่ประชุมเห็นว่าความเสี่ยงหลักต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินไทยในปัจจุบันยังเป็นความเสี่ยงจากเศรษฐกิจการเงินโลก ทั้งการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) หรือการต่อมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ปัญหาเศรษฐกิจยุโรปที่ยังต้องใช้เวลาแก้ไข และแนวนโยบายของรัฐบาลใหม่ประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่มการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจนำไปสู่ความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจการเงินโลก และความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายในระยะต่อไป จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
ด้านการกำกับดูแลสถาบันการเงิน ที่ประชุมเห็นว่าระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีความเข้มแข็งและพร้อมจะดำเนินการ ในส่วนของเกณฑ์เงินกองทุนตามบาเซิล 3 ได้ แต่สำหรับการปฏิรูปกฎเกณฑ์อื่นๆ ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการเงินโลกที่ผ่านมา ทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและยุโรปนั้น ที่ประชุมเห็นว่ายังไม่ส่งผลต่อระบบธนาคารพาณิชย์ไทยโดยตรงมากนัก
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในฐานะกรรมการ กนส. กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นตรงกันว่าภาวะเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ที่ยังเป็นข้อกังวลคงเป็นเรื่องหนี้ครัวเรือนที่ต้องจับตาดูต่อไป ส่วนการนำเกณฑ์บาเซิล 3 มาใช้ยังไม่ใช่เรื่องที่แตกตื่น เพราะสถาบันการเงินไทยแข็งแรง
|