มฤตยูดำ-ไข้กาฬหลังแอ่น


มฤตยูดำ-ไข้กาฬหลังแอ่น
นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ (พ.บ., ประสาทศัลยศาสตร์, น.บ.)

    ไม่นานมานี้มีข่าวการเจ็บป่วยและการสูญเสียคนในวงการบันเทิงหลายราย เช่น นักร้องลูกทุ่งที่ป่วยด้วยมะเร็งตับในระยะเวลาไม่นานก็เสียชีวิตไป รายล่าสุดที่เป็นข่าวดังคือดาราตลกที่ป่วยด้วยโรคไข้กาฬหลังแอ่น ซึ่งอาการหนักในระยะแรกแต่ดีขึ้นเมื่อได้รับยา แต่แล้วในที่สุดก็กลับทรุดหนักลงอีก จนแพทย์ไม่สามารถให้การรักษาเพิ่มเติมได้ในที่สุดก็จากไปเช่นกัน
     โรคมะเร็งตับเป็นโรคที่เราได้ยินกันบ่อย แต่โรคไข้กาฬหลังแอ่นเป็นโรคที่เราๆ ท่านไม่ค่อยคุ้นกันสักเท่าไร แม้แต่แพทย์เองก็น้อยรายที่จะมีประสบ-การณ์กับโรคนี้ เพราะในปัจจุบันนี้มีรายงานการพบผู้ป่วยด้วยโรคนี้ลดลงมาก (โรคนี้จัดเป็นโรคติดต่อที่ต้องควบคุมเพราะมีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก) วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้นดีกว่าครับ

“เยื่อหุ้มสมองอักเสบ” ที่มาของคำว่า “หลังแอ่น”
     ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้จะมีการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองอย่างรุนแรง ซึ่งการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง(Meningitis) นี้ ในทางการแพทย์จะทราบกันดีว่า ทำให้มีอาการสำคัญที่เรียกว่า
“คอแข็ง” (Stiff neck) และในรายที่มีอาการรุนแรง คือการอักเสบลุกลามลงมาตามไขสันหลังก็จะมีอาการตัวเกร็งหลังแอ่น คล้ายกับบางโรคเช่น บาดทะยัก จึงเป็นที่มาของคำว่า “หลังแอ่น”



แพร่กระจายติดต่อได้ทางใดบ้าง

     โรคนี้จัดเป็นโรคติดต่อผ่านทางการหายใจ ซึ่งเป็นได้ทั้งการจาม ไอ หรือกอดจูบกัน โดยมีเชื้อที่ตัวการคือ เชื้อแบคทีเรีย Neisseria menigitidis ซึ่งมีลักษณะเป็นทรงกลม ตามธรรมชาติแล้วคนเราจะมีเชื้อนี้อยู่ได้ในระบบทางเดินหายใจส่วนต้น คือ ลำคอ โดยที่ ไม่จำเป็นต้องป่วยเป็นโรค หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มีคนบางคนเป็นพาหะของโรค เหตุที่มีเชื้อ แต่ไม่ป่วยก็เพราะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคได้ ซึ่งมักจะติดตัวมาตั้งแต่เด็ก (กลไกการเป็นพาหะก็คล้ายๆ กับคนที่เป็นพาหะของโรคตับอักเสบนั่นเอง) เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายของคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันก็จะฟักตัวไม่เกินสัปดาห์ (หรือเร็วกว่านั้นถ้ามีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ) โดยมีอาการเริ่มแรกเหมือนคนเป็นหวัด คือ เมื่อยตัว มีไข้ ปวดหัว เจ็บในลำคอ เป็นต้น      จากนั้นก็จะลุกลามไปยังกระแสโลหิตและจะแสดงอาการจำเพาะที่แท้จริงออกมา ซึ่งเมื่อแสดงอาการที่แท้จริงแล้วก็มักจะมีอาการหนักทุกราย
อย่างไรก็ดีการได้รับเชื้อโรคก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องป่วยเป็นโรคทุกราย เพราะลักษณะจำเพาะของโรคนี้คือ การแสดงอาการรุนแรงในผู้ที่ร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิมเท่านั้น


“ไข้กาฬ-มฤตยูดำ” ร้านกาจแค่ไหน

      สมญานามว่า “ไข้กาฬ” ไม่เกินเลยความเป็นจริง เพราะเมื่อมีการลุกลามเข้าสู่กระแสโลหิต จะทำให้มีความผิดปกติและการล้มเหลวของอวัยวะหลายอย่าง เริ่มจากการที่มีเลือดออกตามผิวหนังอันเนื่องมาจากความผิดปกติของหลอดเลือดส่วนปลาย ซึ่งผื่นเลือดออกมักพบตามแขนขา ปลายมือ ปลายเท้า เห็นเป็นปื้นๆ สีแดงดำคล้ายรูปดาวกระจาย นอกจากนี้ยังอาจเกิดเลือดออกในสมอง ลำไส้ ต่อมหมวกไต หรือแม้แต่ปอดได้ ภาวะที่มีความผิดปกติของเลือด นี้เรียกกันในทางแพทย์ว่า Disseminated intravascular coagulopathy หรือ DIC ซึ่งผู้ป่วยจะมีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด อย่างรุนแรงจนเลือดไหลไม่หยุด (พบได้บ่อยจากข่าวหนังสือพิมพ์คือในผู้ป่วยหลังคลอดบุตรที่มีการตกเลือดผิดปกติเนื่องมาจากเลือดไม่แข็งตัว หรือในรายที่มีน้ำคร่ำหลุดเข้ากระแสโลหิต ทำให้มีเลือดออกไม่หยุด จนถึงเสียชีวิตได้) ในเด็กหรือวัยรุ่นอาการจะรวดเร็วรุนแรงมากจนเกิดภาวะที่เรียกว่า Waterhouse-Friderichsen syndrome ซึ่งอาการสุดท้ายของโรคคือภาวะช็อคและอวัยวะล้มเหลว จนนำไปสู่ความตายถึง 70-80% ของผู้ป่วย
การติดเชื้ออย่างรุนแรงจะส่งผลหลักๆ กับอวัยวะสำคัญๆ คือ สมอง (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ) ซึ่งมีอัตราการตายอยู่ที่ 3-5% การติดเชื้อในกระแสโลหิต (Meningococcemia) ซึ่งมีอัตราการตายสูงมากเกิน 50% หรืออาจไปถึง 70-80% และภาวะเลือดออกไม่หยุด ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้ถึงตายได้ง่ายๆ ทั้งสิ้น


การวินิจฉัยโรคนี้

     ในระยะแรก แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่แพทย์จะวินิจฉัยโรคได้ เพราะอาการเหมือนคนเป็นหวัดธรรมดาทั่วไป ต่อเมื่อมีอาการเลือดออกตามร่างกาย ผิวหนัง แพทย์จึงจะเริ่มทราบว่าไม่ใช่และเริ่มมองหาโรคอื่น ซึ่งการวินิจฉัยที่แน่นอนทำได้โดยการจับเชื้อให้ได้ โดยแพทย์จะต้องใช้ไม้พันสำลีที่เตรียมไว้เป็นพิเศษ ป้ายเยื่อบุจมูก(Nasopharyngeal swab) และนำไปเพาะเชื้อภายใต้ภาชนะและเทคนิคพิเศษ หรือแพทย์อาจทำการเจาะเลือดหรือเจาะน้ำไขสันหลัง เพื่อไปตรวจหาเชื้อ

รักษาอย่างไร

        การรักษาที่ดีที่สุดคือการรักษาในระยะแรกที่เริ่มมีอาการคล้ายเป็นหวัด แต่เป็นระยะที่วินิจฉัยได้ยากที่สุด เพราะอาการไม่ต่างจากหวัด ซึ่งในคนที่ เป็นหวัดแพทย์ก็มักรักษาตามอาการ ยกเว้นในรายที่แพทย์คิดว่าเป็นหวัดและมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย แพทย์ก็จะให้ยาปฏิชีวนะหรือที่ชาวบ้าน เรียกว่ายาฆ่าเชื้อ ซึ่งจะรักษาโรคได้เพราะยาที่เหมาะกับโรคก็เป็นยาพื้นๆ ในกลุ่มยาเพนนิซิลินนั่นเอง ระยะที่เหมาะกับการให้ยาแล้วได้ผลดี คือก่อนมี ผื่นเลือดออกให้เห็น อย่างไรก็ดีเนื่องจากโรคนี้ตอบสนองดีกับยาในกลุ่มเพนนิซิลิน ซึ่งเป็นยาที่มีรายงานผู้ป่วยแพ้ยาสูงชนิดหนึ่ง ดังนั้นผู้ป่วยทุกรายต้องแจ้ง แพทย์ว่าตนแพ้ยากลุ่มนี้ด้วยหรือไม่
       ในรายที่ได้รับยาเกิน 24 ชั่วโมงไปแล้วจะพ้นระยะการติดต่อ คือจะไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อไปให้คนอื่นได้อีก แต่หากน้อยกว่านี้ก็ยังเป็น คนแพร่เชื้อต่อไปได้

ป้องกันได้ไหม
        โรคนี้มักมีการระบาดเป็นพื้นที่ พบมากในตะวันออกกลางหรือแอฟริกา ในประเทศไทยมีรายงานประปรายและมักไม่พบว่าถึงกับเสียชีวิต หากจะเดินทางไปในเขตที่มีการระบาดก็จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคก่อนเดินทาง โชคดีอยู่อย่างคือแม้มีการระบาดก็มักจะจำกัดวง เฉพาะพื้นที่เท่านั้น และการระบาดมักพบมากในเด็ก         ดังนั้นเด็กที่อยู่ในบริเวณการระบาดหรือมีรายงานการพบเชื้อ ควรจะได้รับวัคซีนเพื่อป้องกัน เพราะอัตราตายในเด็กจะสูงมากและรวดเร็วกว่าผู้ใหญ่

กลุ่มเสี่ยงอีกกลุ่มที่ต้องได้รับวัคซีนคือ ญาติมิตร สมาชิกในครอบครัว          บุคคลที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยเพราะการอยู่ด้วยกันในระยะเวลานานจะมีโอกาสได้รับเชื้อสูงมาก ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มคนที่อยู่รวมกันในหอพัก ค่ายพัก ค่ายทหาร สถานเลี้ยงเด็ก สถานพักฟื้นคนชรา เป็นต้น แต่ทั้งนี้การให้วัคซีนต้องให้แบบจำเพาะให้ตรงกับสายพันธุ์ เนื่องจากเชื้อตัวนี้มีหลายพันธุ์นั่นเอง


“มฤตยูดำ-ไข้กาฬหลังแอ่น” เป็นโรคติดต่อร้ายแรงต้องรายงาน !

         ด้วยเหตุเมื่อใครที่เป็นโรคนี้แล้วมีอัตราการตายสูงมาก ดังนั้นเมื่อพบโรคนี้ปรากฏที่ใดจึงจำเป็นที่สถานพยาบาล แพทย์ หรือผู้เกี่ยวข้อง ต้องรายงานต่อกรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ทางการดำเนินการป้องกันและจำกัดบริเวณที่มีการแพร่กระจายนั่นเอง
        อย่างไรก็ตามการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง มีภูมต้านทานที่ดีจะเป็นปราการที่ปลอดภัยที่สุด และใครที่เป็นหวัดควรต้องรีบรักษา และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการน่าสงสัยคงชะล่าใจไม่ได้กับโรคกาฬหลังแอ่นนี้นะครับ

ที่มา:http://www.healthtoday.net/thailand/disease/disease_95.html



00119 โดย ศักดิ์ชัย ภู่เจริญ 2009-05-11 20:21:38 v : 2213



ดร.ศักดิ์ชัย ภู่เจริญ

 

เว็บทางการศึกษา
ตรวจสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต
ข่าว The Nation
ข่าว CNN
ข่าว BangkokPost


มูลนิธิทางไกrลผ่านดาวเทียม
บริการการเรียนการสอนทางไกล ผ่านดาวเทียม จากโรงเรียนไกลกังวล หัวหิน
มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย
ศูนย์กลางการศึกษาผ่านระบบเครือข่าย ครอบคลุมการศึกษาทุกระบบ
GURU Online
พัฒนาครูไทย มาตรฐานเท่าเทียม เรียนได้ทุกที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ก้าวย่างอย่างเข้าใจ
การจัดกระบวนการเรียนรู้เพศศึกษาให้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรสถานศึกษา
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
ส่งเสริมให้ข้าราชการออมเงินไว้เพื่อใช้ในยามเกษียณอาย
KARN.TV
รวมความรู้ แบบฝึกหัด กิจกรรมเพิ่มทักษะ สำหรับอนุบาล - ประถมต้น
ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อบริการประชาชน
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้บริการทั้งการสอบถามข้อมูล การรับเรื่องร้องเรียนและการให้บริการในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับภาครัฐ ของทุกกระทรวง ทบวง กรม ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ห้องสมุด มสธ.
IGCSE ติว IELTS
TOEIC ติว GED
IELTS ติว TOEIC
TDC : Thai Digital Collection
สืบค้นงานวิจัย ฉบับเต็ม



 

เรียนพิเศษโคราช

พัฒนาระบบโดย
ธีรวัฒน์ ภู่เจริญ

จดโดเมน Host ออกแบบเว็บไซต์ Web Design

ครูอินเตอร์.คอม ดร.ศักดิ์ชัย ภู่เจริญ ภาวะผู้นำ บริหารการศึกษา