เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นายไพฑูรย์ สินลารัตน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยกรณีที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เห็นชอบในหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ย้ายคืนถิ่น หรือกลับภูมิลำเนา โดยจะให้เปิดยื่นคำร้องภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ว่า โดยหลักการแล้ว การให้ครูย้ายกลับภูมิลำเนาเป็นสิ่งดี เพราะเปิดโอกาสให้กลับไปอยู่บ้านเกิด และกลับไปพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง แต่การให้ครูย้ายคืนถิ่นควรดูความพร้อมของโรงเรียนที่ยื่นความจำนงไปด้วย เช่น โรงเรียนมีอัตราเต็มหรือไม่ หากเต็มก็ไม่ควรย้ายไป เพราะจะทำให้ครูไปกระจุกตัว และทำให้โรงเรียนส่วนหนึ่งขาดแคลนได้นอกจากนี้ ศธ.ควรวางระบบ และแนวทางอย่างดี ไม่เช่นนั้นจะเกิดความสับสน และวุ่นวายในการย้าย ส่วนช่วงรอยต่อระหว่างการโยกย้าย ที่เกรงกันว่าจะมีอัตราทดแทนครูที่ย้ายได้หรือไม่ หากย้ายจำนวนมากนั้น ต้องระวัง ทั้งนี้หากจะไม่ให้ครูขอกลับภูมิลำเนาภายหลัง คิดว่าในการบรรจุครูใหม่ ควรเน้นการบรรจุตามท้องถิ่น หรือภูมิลำเนาเป็นหลัก จะลดการขอย้าย และเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว 

นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องทราบข้อมูลก่อนว่าจะมีครูยื่นขอย้ายกลับภูมิลำเนากี่คน อยู่ภูมิภาคใด จังหวัดไหน และสาขาวิชาอะไรบ้าง จากนั้นต้องนำข้อมูลมาจับคู่กับจำนวนอัตราว่างที่มีอยู่ ซึ่งในการย้าย สพฐ.จะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของครูและสถานศึกษาเป็นหลัก ส่วนที่ห่วงว่าแต่ละปีจะมีอัตรามาทดแทนไม่กี่คน และอาจไม่เพียงพอนั้น คิดว่าจะบริหารจัดการได้ ทั้งนี้ สพฐ.จะส่งข้อเสนอหลักเกณฑ์เบื้องต้นในการโยกย้ายให้สำนักงาน ก.ค.ศ.นำไปพิจารณาด้วย ซึ่งวันที่1 ธันวาคม จะเปิดรายละเอียดของโครงการทั้งหมด 

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน 

• สกว.
• สกศ.
• สคส.
• สนง.นวัตกรรมแห่งชาติ
• รศ.สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์
• GoToKnow
• OK_Nation
• SISLT
• ThaiGoodView
• สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา

TDC : Thai Digital Collection สืบค้นงานวิจัย ฉบับเต็ม

เรียนพิเศษโคราช

พัฒนาระบบโดย
ธีรวัฒน์ ภู่เจริญ